วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สืบสานประเพณีไหลเรือไฟ




ประเพณีไหลเรือไฟ
วันที่ ๓๐ ตุลาคมนี้ก็จะเป็นวันออกพรรษาแล้ว ชาวอีสานจะมีงานประเพณีไหลเรือไฟ ซึ่งจะทำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือ วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ประเพณีไหลเรือไฟนี้มีความเชื่อหลายประการ เช่น เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ,การสักการะท้าวพกาพรหม,การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณีหรือเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคา เป็นต้น

คำว่า เรือไฟหรือเฮีอไฟ  หมายถึง เรือที่ทำด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่หรือวัสดุที่ลอยน้ำมีโครงสร้างเป็นรูปร่างต่างๆ ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้างเปลวไฟจะลุกเป็นรูปร่างตามโครงสร้างนั้นๆ
ไหลเรือไฟ จีงเป็นพีธีกรรมอย่างหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ ประเพณีการไหลเรือไฟแต่ละท้องถิ่นเรียกไม่เหมือนกัน เช่น ล่องเรือไฟ,ลอยเรือไฟหรือปล่อยเรือไฟ  แต่อย่างไรก็แล้วแต่มีลักษณะที่เหมือนกันคือเป็นเรือไฟที่เคลื่อนไปเรื่อยๆ


เรือไฟประกอบด้วย ๒ ส่วนคือ ส่วนที่เป็นทุ่นสำหรับลอยน้ำ จะใช้ไม้ที่ลอยน้ำมาผูกติดกันเป็นแพ และอีกส่วนที่เป็นรูปร่างสำหรับจุดไฟ เป็นส่วนที่อยู่บนทุ่น ใช้ไม้ไผ่ลำยาวตั้งปลายขึ้นทั้ง ๓  ลำเป็นเสารับน้ำหนักของแผลง และแผลงนี้ก็ทำด้วยไม้ไผ่ขนาดเล็กมาผูกยึดไขว้กันเป็นตารางสี่เหลี่ยมระยะห่างกันประมาณคีบเศษ มัดด้วยลวดให้แน่น วางราบบนพื้น แล้วออกแบบเป็นรูปร่างต่างๆ ตามที่คิดไว้ ในสมัยก่อนจะออกแบบเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธ เช่น พุทธประวัติ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันจะออกแบบให้เข้ากับเหตุการณ์

เมื่อได้ภาพก็เริ่มทำลวดลายภาพ โดยใช้ไม้ไผ่เล็กๆ และลวดดัดให้เป็นลายตามที่ต้องการ แล้วใช้จีวรเก่าๆ มาฉีกเป็นริ้วๆ ชุบน้ำมันยาง (ปัจจุบันใช้น้ำมันโซล่า) เมื่อชุบแล้วก็นำไปตากประมาณ ๖ ๗ วัน หรือไม่ตากก็ได้ แล้วน้ำมาพันกับเส้นลวดจนทั่วและมีริ้วผ้าเส้นเล็กๆ วางแนบเป็นแนวยาวทำหน้าที่เป็นสายชนวน เมื่อเวลาจุดไฟ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ไปผูกติดกับไม้ไผ่ที่ทำเป็นเสาหลักไว้ เมื่อถึงเวลาก็จุดไฟแล้วปล่อยไปตามน้ำ
แต่ปัจจุบันนี้การทำเรือไฟได้เปลี่ยนไป โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การใช้เรือจริง การใช้ไฟฟ้าประดับแทนการผ้าที่ชุบน้ำมัน


ประเพณีไหลเรือไฟนี้ในตั่งแต่ช่วงเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร มีการละเล่นต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน และมีการรำวงเพื่อฉลองเรือไฟ พอพลบค่ำจะมีการสวดมนต็รับศีลและฟังเทศน์ พอถึงเวลาประมาณ ๑๙ ๒๐ นาฬิกา  ชาวบ้านจะนำของกิน ผ้า ของใช้ ขนม ข้าวต้มมัด  กล้วย อ้อย หมากพลู บุหรี่ ฯลฯ ใส่ลงในถาดบรรจุในเรือไฟ พอถึงเวลาก็จุดไฟให้เรือสว่าง แล้วปล่อยเรือให้ลอยไปตามแม่น้ำ
จังหวัดที่มีการไหลเรือไฟ ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ,สกลนคร,นครพนม,หนองคาย,เลย,มหาสารคามและอุบลราชธานี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น