ประเพณีไหลเรือไฟ
วันที่
๓๐ ตุลาคมนี้ก็จะเป็นวันออกพรรษาแล้ว ชาวอีสานจะมีงานประเพณีไหลเรือไฟ
ซึ่งจะทำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือ วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑
ประเพณีไหลเรือไฟนี้มีความเชื่อหลายประการ เช่น เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท
,การสักการะท้าวพกาพรหม,การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณีหรือเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคา
เป็นต้น
คำว่า
“ เรือไฟหรือเฮีอไฟ” หมายถึง
เรือที่ทำด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่หรือวัสดุที่ลอยน้ำมีโครงสร้างเป็นรูปร่างต่างๆ
ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้างเปลวไฟจะลุกเป็นรูปร่างตามโครงสร้างนั้นๆ
ไหลเรือไฟ
จีงเป็นพีธีกรรมอย่างหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ
ประเพณีการไหลเรือไฟแต่ละท้องถิ่นเรียกไม่เหมือนกัน เช่น ล่องเรือไฟ,ลอยเรือไฟหรือปล่อยเรือไฟ
แต่อย่างไรก็แล้วแต่มีลักษณะที่เหมือนกันคือเป็นเรือไฟที่เคลื่อนไปเรื่อยๆ
เรือไฟประกอบด้วย
๒ ส่วนคือ ส่วนที่เป็นทุ่นสำหรับลอยน้ำ จะใช้ไม้ที่ลอยน้ำมาผูกติดกันเป็นแพ
และอีกส่วนที่เป็นรูปร่างสำหรับจุดไฟ เป็นส่วนที่อยู่บนทุ่น
ใช้ไม้ไผ่ลำยาวตั้งปลายขึ้นทั้ง ๓
ลำเป็นเสารับน้ำหนักของแผลง และแผลงนี้ก็ทำด้วยไม้ไผ่ขนาดเล็กมาผูกยึดไขว้กันเป็นตารางสี่เหลี่ยมระยะห่างกันประมาณคีบเศษ
มัดด้วยลวดให้แน่น วางราบบนพื้น แล้วออกแบบเป็นรูปร่างต่างๆ ตามที่คิดไว้
ในสมัยก่อนจะออกแบบเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธ เช่น พุทธประวัติ เป็นต้น
แต่ในปัจจุบันจะออกแบบให้เข้ากับเหตุการณ์
เมื่อได้ภาพก็เริ่มทำลวดลายภาพ
โดยใช้ไม้ไผ่เล็กๆ และลวดดัดให้เป็นลายตามที่ต้องการ แล้วใช้จีวรเก่าๆ
มาฉีกเป็นริ้วๆ ชุบน้ำมันยาง (ปัจจุบันใช้น้ำมันโซล่า)
เมื่อชุบแล้วก็นำไปตากประมาณ ๖ – ๗ วัน
หรือไม่ตากก็ได้ แล้วน้ำมาพันกับเส้นลวดจนทั่วและมีริ้วผ้าเส้นเล็กๆ
วางแนบเป็นแนวยาวทำหน้าที่เป็นสายชนวน เมื่อเวลาจุดไฟ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ไปผูกติดกับไม้ไผ่ที่ทำเป็นเสาหลักไว้
เมื่อถึงเวลาก็จุดไฟแล้วปล่อยไปตามน้ำ
แต่ปัจจุบันนี้การทำเรือไฟได้เปลี่ยนไป
โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การใช้เรือจริง
การใช้ไฟฟ้าประดับแทนการผ้าที่ชุบน้ำมัน
ประเพณีไหลเรือไฟนี้ในตั่งแต่ช่วงเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร
มีการละเล่นต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน และมีการรำวงเพื่อฉลองเรือไฟ
พอพลบค่ำจะมีการสวดมนต็รับศีลและฟังเทศน์ พอถึงเวลาประมาณ ๑๙ – ๒๐ นาฬิกา
ชาวบ้านจะนำของกิน ผ้า ของใช้ ขนม ข้าวต้มมัด กล้วย อ้อย หมากพลู บุหรี่ ฯลฯ
ใส่ลงในถาดบรรจุในเรือไฟ พอถึงเวลาก็จุดไฟให้เรือสว่าง
แล้วปล่อยเรือให้ลอยไปตามแม่น้ำ
จังหวัดที่มีการไหลเรือไฟ
ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ,สกลนคร,นครพนม,หนองคาย,เลย,มหาสารคามและอุบลราชธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น